>>>แอร์โปร์ดักส์ ติดอันดับบริษัทที่มีการดำเนินงานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการจัดอันดับ 100 บริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยนิตยสารบารอนส์

แอร์โปร์ดักส์ ติดอันดับบริษัทที่มีการดำเนินงานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการจัดอันดับ 100 บริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยนิตยสารบารอนส์

2021-04-19T17:51:06+07:00

แอร์โปรดักส์ (Air Products) อยู่ในลำดับที่ 13 จากการจัดอันดับ 100 บริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาจากนิตยสารบารอนส์ (Barron’s)

 

25 กุมภาพันธ์ 2564 ลีไฮน์ วัลเลย์ รัฐเพนซิลเวเนีย

แอร์โปรดักส์ (ตัวย่อ APD ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค) บริษัทแม่ของบีไอจี ได้รับการประเมินโดยนิตยสารบารอนส์ว่าเป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นลำดับต้น ๆ จากการจัดอันดับบริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาปี 2564

นิตยสารบารอนส์จัดอันดับให้แอร์โปรดักส์อยู่ในลำดับที่ 13 จากจำนวน 100 บริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุด โดยไต่ขึ้นมา 20 อันดับเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ แอร์โปรดักส์ขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทที่มีการดำเนินสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการประเมินความพยายามของบริษัทต่าง ๆ ในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินงาน และแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน

“…ยังมีงานอีกมากมายที่เราต้องทำ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แอร์โปรดักส์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่สำคัญด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมผ่านกระบวนการผลิตก๊าซ การดักจับคาร์บอน และการผลิตไฮโดรเจนสำหรับเทคโนโลยีโซลูชันแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Solutions) ทั่วโลก”
นายเซฟี กาเซมี ประธานบริษัท ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอร์โปรดักส์ แอนด์ เคมิคัลล์ อิงค์ กล่าว

นอกจากนี้ นิตยสารบารอนส์ยังระบุเป็นการเฉพาะว่า แอร์โปรดักส์ติดอันดับบริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดถึง 3 ปีซ้อน ได้ใช้เงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในโครงการผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานหมุนเวียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะสามารถผลิตไฮโดรเจนที่ปราศจากคาร์บอนได้ในปริมาณมหาศาลให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกได้ในปี 2568

“ความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักในสิ่งที่เราทำ ผลิตภัณฑ์ก๊าซอุตสาหกรรม เทคโนโลยี รวมทั้งแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของเราช่วยให้ลูกค้าที่อยู่ทั่วโลก สามารถลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ และเพิ่มผลผลิต” นายเซฟี กาเซมี ประธานบริษัท ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว

“เราภูมิใจที่นิตยสารบารอนส์เล็งเห็นถึงความพยายามของเราในการสร้างและแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านความยั่งยืน ซึ่งเราทราบดีว่ายังมีงานอีกมากมายที่เราต้องทำ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แอร์โปรดักส์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่สำคัญด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมผ่านกระบวนการผลิตก๊าซ การดักจับคาร์บอน และการผลิตไฮโดรเจนสำหรับเทคโนโลยีโซลูชันแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Solutions) ทั่วโลก”

หนึ่งในโครงการสำคัญที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาด คือ โครงการนีออม (NEOM) โดยเมื่อปีที่ผ่านมา แอร์โปรดักส์พร้อมด้วยอัควาเพาเวอร์ (ACWA Power) และนีออม (NEOM) ได้ร่วมลงนามข้อตกลงมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแอมโมเนียจากไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ขนาดใหญ่ระดับโลกซึ่งใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต โครงการนี้เป็นการถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากันทั้ง 3 ฝ่าย ตั้งอยู่ในเมืองใหม่นีออมซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืนรูปแบบใหม่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย โครงการนี้สามารถผลิตแอมโมเนียสีเขียว (Green Ammonia) เพื่อส่งออกไปทั่วโลก โดยแอร์โปรดักส์จะเป็นผู้รับซื้อแอมโมเนียแต่เพียงผู้เดียว และจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีการลงทุนรวม 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการขนส่งออกแอมโมเนียสีเขียวทั่วโลกเพื่อนำไปแยกและผลิตไฮโดรเจนสีเขียวสำหรับตลาดภาคการขนส่งและตลาดอื่น ๆ ต่อไป

สำหรับการจัดอันดับบริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นั้น นิตยสารบารอนส์ได้ร่วมกับบริษัท Calvert Research & Management ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับต้น ๆ ทำการวิเคราะห์บริษัทจำกัดมหาชนขนาดใหญ่ 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ทั้งนี้ แต่ละบริษัทจะถูกประเมินใน 5 หมวดหมู่ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก ได้แก่ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า สังคมชุมชน และโลก

อย่างไรก็ตาม เพื่อต่อยอดความพยายามในการสร้างความยั่งยืน แอร์โปรดักส์ยังได้ประกาศเป้าหมายความยั่งยืนใหม่ในปี 2563 ในการลดความเข้มข้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมา (ซึ่งมีหน่วยเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กิโลกรัมต่อล้านบีทียู) ให้ลดลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573 เทียบกับปี 2558

นอกจากนี้ แอร์โปรดักส์ยังได้ประกาศก้าวใหม่ในการมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทในธุรกิจก๊าซอุตสาหกรรมที่สนับสนุนความหลากหลายของพนักงานในองค์กรมากที่สุดในโลก โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนพนักงานในระดับชำนาญการและระดับบริหารที่เป็นพนักงานหญิงและพนักงานจากชนกลุ่มน้อยในสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างวัฒนธรรมการสนับสนุนความหลากหลาย การยอมรับความแตกต่าง และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ทั้งนี้ ภายในปี 2568 แอร์โปรดักส์ตั้งเป้าหมายจำนวนพนักงานหญิงในระดับชำนาญการและระดับบริหารอย่างน้อยร้อยละ 28 ในทุกสำนักงานทั่วโลก และมีจำนวนพนักงานจากชนกลุ่มน้อยในระดับชำนาญการและระดับบริหาร อย่างน้อยร้อยละ 20 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มจากปี 2563 ถึงร้อยละ 25 และร้อยละ 17 ตามลำดับ

การได้รับการยอมรับจากนิตยสารบารอนส์ถือเป็นผลงานล่าสุดของแอร์โปรดักส์ โดยปัจจุบันแอร์โปรดักส์ติดอันดับในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ของเอสแอนด์พี (S&P Global 2020 Sustainability Yearbook) และการจัดอันดับองค์กร Carbon Clean 200 โดยนิตยสาร Corporate Knights เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ การจัดอันดับ Clean 200 เริ่มขึ้นเมื่อปี 2559 เพื่อจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ในด้านพลังงานสะอาด

นอกจากนี้ แอร์โปรดักส์ยังติดอันดับ 100 องค์กรที่มีการจัดการที่ยั่งยืนของนิตยสาร Wall Street Journal ซึ่งมีการประเมินบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กว่า 5,500 แห่ง โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ อาทิ รูปแบบการดำเนินธุรกิจและนวัตกรรม ประเด็นด้านสังคมและด้านผลิตภัณฑ์ ประเด็นด้านพนักงานและสถานที่ทำงาน และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แอร์โปรดักส์ยังได้รับการประเมินให้ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ ดีเจเอสไอ (Dow Jones Sustainability North America Index: DJSI) เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน โดยผลการประเมินปี 2563-64 ดีเจเอสไอ ได้จัดอันดับให้แอร์โปรดักส์ให้เป็น 1 ในกลุ่มบริษัทในทวีปอเมริกาเหนือร้อยละ 20 แรกที่มีผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมเดียวกัน

สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของประเทศไทยมีแผนที่จะส่งเสริมการลดปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรกาศ โดยตั้งนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของแอร์โปรดักส์ที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือ 1 ใน 3 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2558 ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมก๊าซที่ช่วยเพิ่มผลผลิต และลดผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม อาทิ นวัตกรรมจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงแอลพีจีและเชื้อเพลิงอื่น ๆ และนวัตกรรมจากไฮโดรเจนที่สามารถลดค่ากำมะถันในกระบวนการผลิตน้ำมันเพื่อให้ได้มาตรฐานคุณภาพยูโร 4 เป็นต้น

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจในการสร้างความยั่งยืนของแอร์โปรดักส์ ผ่านเว็บไซต์ความยั่งยืนของเรา

 

ข้อมูลเกี่ยวกับ แอร์โปรดักส์ (Air Products)

แอร์โปรดักส์ (ตัวย่อ APD ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจก๊าซอุตสาหกรรมมาเป็นเวลาเกือบ 80 ปี ปัจจุบันแอร์โปรดักส์มุ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน สิ่งแวดล้อม และตลาดเกิดใหม่ บริษัทมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับก๊าซอุตสาหกรรมซึ่งมีความจำเป็น เครื่องมือและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ครอบคลุมอุตสาหกรรมการกลั่น เคมีภัณฑ์ โลหะ อิเล็กทรอนิกส์ การผลิต ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ แอร์โปรดักส์ยังเป็นผู้นำระดับโลกในการจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับกระบวนการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว บริษัทมีการพัฒนา ออกแบบ ก่อสร้าง เป็นเจ้าของ และดำเนินโครงการก๊าซอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในบางโครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการแปรสภาพทรัพยากรธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผสม (Syngas) เพื่อผลิตพลังงาน เชื้อเพลิง และเคมีภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง โครงการดักจับคาร์บอน และโครงการผลิตไฮโดรเจนที่ปราศจากคาร์บอนระดับโลกเพื่อสนับสนุนการขนส่งทั่วโลกและการเปลี่ยนถ่ายพลังงาน

ทั้งนี้ ในรอบปีบัญชี 2562 บริษัทมียอดขาย 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐจากการดำเนินธุรกิจใน 50 ประเทศ และปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 60 พันล้านเหรียญสหรัฐ พนักงานที่มีความมุ่งมั่นและมีพรสวรรค์กว่า 17,000 คนของบริษัทมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่มีแรงผลักดันร่วมกันนั่นคือ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าของแอร์โปรดักส์ที่มุ่งแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความยั่งยืน และตอบโจทย์ความท้าทายที่ลูกค้า ชุมชน และโลกกำลังเผชิญอยู่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.airproducts.com

 


Share:
Right Menu Icon
บริษัทใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ bigth.com ของท่านที่ดีกว่าเดิม ในการใช้งานเว็บไซต์ของเรา ถือว่าท่านยอมรับการใช้คุกกี้ตามที่ระบุใน มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยอมรับ